08
MAR
2014

What’s New

pispd-4

VARIABOX, the new generation of distributors from Bals
The standard for variable and safe distributor housings One for all: the new VARIABOX from Bals, which will be presented for the first time at light+building 2012, meets all requirements for a modern distributor housing and can be individually configured in five different sizes. With versions S, M, L, XL and XXL, we have the right distributor for every user.
Configuration is done according to individual specifications on the basis of predefined, encoded flange plates. With their robust design in a high-grade and durable, quality plastic, their good seal and many innovative extra features, the new VARIABOX proves itself even under adverse conditions, up to a protection rating of IP 67.
With VARIABOX, a wide variety of new developments from Bals are used for the first time:

  • The operating window is equipped with the innovative OTC mechanics (one touch close). The OTC window with 4-, 6- or 10-module design is opened vertically upward and automatically locks into place when completely opened. Touch lightly and the window again closes automatically and securely locks by means of a pre-tensioned spring mechanism. The advantage for the user: all maintenance and inspection work can be comfortably performed with both hands. The fact that the flap opens upward prevents dirt from penetrating the housing during the work.
  • In combination with the flange plates for the various housing sizes, Bals has developed a new coding system that sets standards in reliability.
  • Radial seals on the attachment parts ensure that the seal is maintained even if plugs and sockets are pulled out and plugged in many times or in the event of repetitive vibrations.
  • The hinged top facilitates not only easy connection of the supply cable, but it also ensures that the sealing edge cannot be damaged when the top is opened.
  • Multiple VARIABOX distributors can be quickly and efficiently combined with one another in the modular system.
  • The mounting rails can be pulled forward, thereby allowing even long connection lines to be handled with ease in the terminal compartment.

08
MAR
2014

Weatherproof Switched Isolator, WSD Series

ทาง เอบีบี ขอแนะนำ Weatherproof Switch Isolator (WSD Series) เป็นอุปกรณ์ให้ความปลอดภัยในการตัดต่อวงจรที่สมบูรณ์ให้ความสวยงานและปลอดภัยทั้งผู้อยู่อาศัยตลอดจดช่างซ่อมบำรุง ตามมาตรฐานอุสาหกรรม ในราคาที่ย่อมเยา

pispd-1

การติดตั้งและใช้งาน WSD Series
• เหมาะกับการใช้งานเป็น Safety Switch
• มีขนาดกระแสให้เลือกตั้งแต่ 20-63 แอมป์
• ตัวกล่องสวิตช์กันน้ำ IP66 สามารถติดตั้งได้ทั้งภายใน และ ภายนอกอาคารที่พักอาศัย
• สวิตช์ มีทั้ง 1 pole และ 2 poles เหมาะกับการใช้งานตัดต่ออุปกรณ์แสงสว่างภายนอกอาคาร ปั๊มน้ำ มาเตอร์ 1 เฟส 2 สาย เพื่อเป็นสวิตช์แยกอุปกรณ์ออกจากแหล่งจ่ายไฟอย่างสมบูรณ์ (Isolate)
• สามารถใส่กุญแจล็อกตำแหน่ง “เปิด” และ “ปิด” ได้

pispd-2

pispd-3

02
AUG
2013

อุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวกและป้องกันอันตรายจากแรงดันเกินชั่วขณะเมื่อเกิดฟ้าผ่า

Knowledge - Article 2 (14192693)

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้ก็คือแรงดันไฟฟ้า โดยทั่วไประบบไฟฟ้าที่เราใช้อยู่จะมีค่าแรงดันอยู่ที่ 380/220Vac แต่ความเป็นจริงค่าแรงดันจะไม่คงที่ตลอดเวลา โดยระดับแรงดันของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปสามารถทำงานได้ปกติในช่วง -15% ถึง +10% ของระดับแรงดันใช้งาน ซึ่งจะมีระดับขึ้นลงไม่มากนักตามสภาวะของแหล่งจ่ายและลักษณะของอุปกรณ์ แต่ถ้าแรงดันไฟฟ้ามีค่าต่ำกว่าหรือสูงกว่าระดับที่อุปกรณ์ไฟฟ้านั้นๆ ทนได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายไม่มากก็น้อยแต่อุปกรณ์ไฟฟ้า

สาเหตุที่ก่อให้เกิดแรงดันไฟฟ้าสูงชั่วขณะ

สำหรับแรงดันเกินชั่วขณะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุหลักประเด็นหนึ่งก็คือผลกระทบจากปรากฎการณ์ฟ้าผ่า (Lightning) เพราะจะทำให้เกิดพลังงานความร้อนมหาศาลที่สามารถทำความเสียหายให้แก่บริเวณที่โดนฟ้าผ่าได้ และยังสร้างสนามไฟฟ้าซึ่งก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าและแรงดันเกินชั่วขณะเข้าสู่ระบบไฟฟ้า เนื่องจากระบบไฟฟ้าถูกต่อเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน ดังนั้นแรงดันที่ถูกเหนี่ยวนำให้สูงขึ้นบริเวณสายส่งไฟฟ้าภายนอกอาคารหรือการที่ศักย์ไฟฟ้าของกราวด์ยกสูงขึ้น ก็อาจมีผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการเกิดแรงดันไฟฟ้าสูงชั่วขณะนั้นอาจพิจารณาแยกย่อยได้ 3 สาเหตุดังนี้

  1. ปรากฎการณ์ฟ้าผ่าแบบผ่าตรง (Direct Strike) คือปรากฎการณ์ที่เกิดฟ้าผ่าบริเวณสายส่งไฟฟ้าใกล้อาคารหรือเกิดลงที่หัวล่อฟ้า ทำให้ความต่างศักย์ระหว่างกราวด์กับสายส่งสูงมาก ซึ่งอาจมีค่าสูงถึง 20 เท่าของแรงดันปกติ และบางครั้งกระแสไฟฟ้าพลังงานมหาศาลที่พุ่งไปสู่ระบบไฟฟ้านี้อาจทำให้ตู้ควบคุมไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ในตู้ไฟฟ้าอาจเสียหายถึงขั้นระเบิดได้
  2. ปรากฎการณ์ฟ้าผ่าแบบโดยอ้อม (Indirect Strike) คือปรากฎการณ์ที่เกิดฟ้าผ่าขึ้นตรงสายส่งไฟฟ้าในบริเวณที่ห่างออกไป เป็นผลให้เกิดความต่างศักย์กระชากสูงขึ้นที่ระดับแรงดันไฟฟ้าในสายส่ง และหากเกิดฟ้าผ่าขึ้นที่บริเวณอาคารข้างเคียงหรืออาจเกิดขึ้นในบริเวณพื้นดินใกล้เคียงกับอาคารของเรา เหตุการณ์เหล่านี้ก็จะทำให้เกิดความต่างศักย์ของกราวด์บริเวณนั้นสูงขึ้นได้เช่นกัน ในกรณีฟ้าผ่าแบบโดยอ้อมนี้ แม้แรงดันกระชากจะไม่สูงเท่ากับในกรณีฟ้าผ่าแบบตรง แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายแก่อุปกรณ์ได้เช่นกัน
  3. แรงดันเกินจากการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า (Operating or switching overvoltage) คือปรากฎการณ์ที่แรงดันเกินชั่วขณะจากการเปิด-ปิดอุปกรณ์ที่มีองค์ประกอบพวก Inductive (ความเหนี่ยวนำทางไฟฟ้า) ถึงแม้จะไม่สูงมาก แต่มักทำให้อุปกรณ์ข้างเคียงบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ข้างเคียงสั้นลง
02
AUG
2013

อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าตั้งแต่ยุคอดีต จนถึงปัจจุบัน

Knowledge - Article 1 (7860504)

อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้า โดยสามารถป้องกันความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีกระแสไฟเกิน และป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ในกรณีที่ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้ารั่ว เพราะกระแสไฟฟ้าจะทำอันตรายต่อการทำงานของหัวใจและสมอง อาจจะทำให้หยุดหายใจจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าจึงมีความจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีระบบไฟฟ้าใหญ่ขึ้น กระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรก็จะสูงมาก ทำให้มีอันตรายมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้านั้นมีหลายชนิดและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น

ในอดีตอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้ามักผลิตจากวัสดุธรรมดา เช่น ไม้ กระเบื้อง พลาสติก ที่ไม่สามารถทนต่อกระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงได้ และมีให้เลือกเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านวัสดุ ทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวมีความสามารถสูงขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านของความปลอดภัยในการป้องกันความเสียหายที่จะมาสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าและคน ทั้งยังปรับปรุงคุณภาพอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมและการใช้งานต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ตัวอย่างเช่น มีคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น ทนต่อสารเคมี ป้องกันการรั่วของกระแสไฟฟ้า และเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถทนไฟได้ภายใต้สภาวะการใช้งานจริง สามารถทนแสง UV และไม่ทำปฏิกิริยาเมื่อได้รับผลกกระทบจากรังสีภายนอก ป้องกันความชื้น การกัดกร่อน และแรงบีบอัดในเวลาเดียวกัน

นอกจากการพัฒนาในด้านวัสดุแล้ว ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่บรรจุอยู่ภายใน ส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้ามีให้เลือกหลายประเภทตามรูปแบบการใช้งาน อาทิ ฟิวส์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินและป้องกันการลัดวงจร ในอดีตนั้นเราพบว่าจะมีฟิวส์เพียงไม่กี่ชนิดสำหรับใช้ภายในที่อยู่อาศัย เช่น ฟิวส์กระเบื้อง ฟิวส์ใบมีด แต่ปัจจุบันฟิวส์ถูกพัฒนาให้เป็น High Voltage สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในความหลากหลายนั้นยังถูกพัฒนาให้มีความเฉพาะเจาะจงเพื่อให้ใช้งานได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทเท่านั้น อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม อุปกรณ์ทางการแพทย์ และระบบเน็ตเวิร์คต่างๆ เป็นต้น

โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์นั้นปัจจุบันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสำคัญต่อบุคคลและองค์กรณ์ ในด้านการเก็บข้อมูลที่เป็นหัวใจหลัก อย่างผลประกอบการ ตัวเลขทางบัญชี สัญญา ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า ฯลฯ อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าจึงต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีให้เทียบเท่า เพื่อการรักษาความปลอดภัยในฐานข้อมูล โดยเริ่มมีวิวัฒนาการในการประดิษฐ์เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) เพื่อกำหนดให้พลังงานไฟฟ้ามีเสถียรภาพ และมีการคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากแรงดันสูงชั่วขณะ (Surge Protector) ซึ่งช่วยลดแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ฟ้าผ่า ซึ่งทำให้เกิดพลังงานที่สูงมากจนสามารถส้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการควบคุมการประมวลผลต่างๆ ได้ ยังผลให้มนุษย์สามารถใช้เทคโนโลยีภายใต้ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าในปัจจุบันมีการติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์พ่วงต่อกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สำนักงาน เช่น PC, SERVER, MODEM, PRINTER, FAX เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และระบบต่างๆ ยังถูกคิดค้นให้สามารถทำงานได้หลากหลายภายในเครื่องเดียวกัน ในด้านของดีไซน์ก็มีการพัฒนาเช่นกัน โดยมีการออกแบบอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าที่เน้นใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ทันสมัยดูเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถแสดงผลการทำงานต่างๆ บนจอ LCD ที่ทันสมัยได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขแรงดันไฟฟ้าขาเข้าและขาออก กราฟค่าความถี่ ระดับการใช้งานต่างๆ และยังมีสัญญาณเตือนเมื่อมีเหตุขัดข้อง ทำให้ผู้ใช้รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติต่างๆ ได้ทันท่วงทีในกรณีเจอปัญหาไฟฟ้าดับหรือปัญหาทางไฟฟ้าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนเก็บข้อมูลที่สามารถย้อนดูประวัติของกระแสไฟที่จ่ายเข้าได้อย่างละเอียดเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างปลอดภัย

อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้านอกจากจะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในด้านของกระบวนการผลิตและการใช้งานแล้ว ปัจจุบันยังถูกพัฒนาให้มีความคุ้มค่าทางด้านพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ที่เราสามารถดูสัญลักษณ์ได้จากสติ๊กเกอร์ Green Label ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับอนาคต เพราะแต่เดิมอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้ามักก่อให้เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย และการสูญเสียรายจ่ายโดยไม่จำเป็น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันทำให้เราสามารถรักษาพลังงานละค่าใช้จ่ายไว้ได้อย่างคุ้มค่า

ปัจจุบันเราไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า ไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันและขับเคลื่อนธุรกิจ และอุปกรณ์รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักมีความไวต่อความผิดปกติของกระแสฟ้าที่ได้รับสูงมาก แต่ในอดีตที่ผ่านมาเราก็ได้แต่เพียงเฝ้าดูการชำรุดและเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้น รวมถึงทำใจให้ยอมรับต่อการสูญเสียที่เป็นผลมาจากภัยของไฟฟ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้ามีการพัฒนามากขึ้น ส่งผลให้เรามีเครื่องมือที่ดีขึ้นในการรับมือกับภัยทางไฟฟ้า ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าจึงควรหันมาติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย โดยควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ และเลือกดูตามความเหมาะสมของงานแต่ละประเภท ที่สำคัญควรทำตามข้อแนะนำที่ติดมากับคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด และให้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทำการติดตั้งอย่างถูกวิธี และในการใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้าแต่ละครั้ง ผู้ใช้จะต้องไม่ตั้งมั่นอยู่ในความประมาท เพราะหากผู้ใช้ไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองแล้ว ต่อให้มีอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพสูงขนาดไหนก็ไม่สามารถที่จะช่วยป้องกันอันตรายได้อย่างเต็มความสามารถ